แนวข้อสอบการบัญชีเบื้องต้น
************
ให้บันทึกบัญชีรายการต่อไปนี้ตามวิธี Perpetual Inventory Method 2560
ม.ค. 2 ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อ เงื่อนไข 2/10, n/60 เป็นเงิน 30,000 บาท
3 ซื้อเครื่องตกแต่งเป็นเงินสด 10,000 บาท
5 ขายสินค้าเป็นเงินสด 13,400 บาท ราคาทุน 10,000 บาท
6 ซื้อวัสดุสำนักงานเป็นเงินเชื่อ 2,800 บาท
7 ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อตามเงื่อนไข 1/10, n/30 เป็นเงิน 15,600 บาท
8 จ่ายค่าระวางสินค้าที่ซื้อ 400 บาท
10 ส่งคืนสินค้าที่ซื้อเมื่อ 2 ม.ค. เป็นเงิน 1,300 บาท
12 ชำระหนี้ค่าสินค้าเมื่อ 2 ม.ค.
14 ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อตามเงื่อนไข 2/10, 1/15, n/60 เป็นเงิน 22,000 บาท
ราคาทุน 14,800 บาท
16 จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุสำนักงาน
20 รับคืนสินค้าที่ขายเมื่อ 14 ม.ค. เป็นเงิน 500 บาท ราคาทุน 320 บาท
22 จ่ายชำระหนี้ค่าสินค้าที่ซื้อเมื่อ 7 ม.ค.
26 รับชำระหนี้ค่าสินค้าที่ขายเมื่อ 14 ม.ค.
ข้อ 1. รายการวันที่ 2 บันทึกบัญชีโดย
1) ซื้อ 29,400
เจ้าหนี้ 29,400
2) สินค้า 30,000
เจ้าหนี้ 30,000
3) ต้นทุนขาย 30,000
เจ้าหนี้ 30,000
4) สินค้า 29,400
เจ้าหนี้ 29,400
ตอบ 2) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 2. รายการวันที่ 3 บันทึกบัญชีโดย
1) เครื่องตกแต่ง 100,000
เจ้าหนี้ 100,000
2) เจ้าหนี้ 100,000
เครื่องตกแต่ง 100,000
3) เครื่องตกแต่ง 100,000
เงินสด 100,000
4) เงินสด 100,000
เครื่องตกแต่ง 100,000
ตอบ 3) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 3-4. รายการวันที่ 5 บันทึกบัญชีโดย
1) เงินสด 13,400
ขาย 13,400
2) เงินสด 10,000
ขาย 10,000
3) เงินสด 10,000
ขาย 10,000
ต้นทุนขาย 13,400
4) เงินสด 13,400
ขาย 13,400
ต้นทุนขาย 10,000
สินค้า 10,000
ตอบ 4) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 5. รายการวันที่ 6 บันทึกบัญชีโดย
1) วัสดุสำนักงาน 2,800
เจ้าหนี้ 2,800
2) เจ้าหนี้ 2,800
วัสดุสำนักงาน 2,800
3) วัสดุสำนักงาน 2,800
เงินสด 2,800
4) เงินสด 2,800
วัสดุสำนักงาน 2,800
ตอบ 1) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 6. รายการวันที่ 7 บันทึกบัญชีโดย
1) ซื้อ 15,444
เจ้าหนี้ 15,444
2) สินค้า 15,600
เจ้าหนี้ 15,600
3) ต้นทุนขาย 15,600
เจ้าหนี้ 15,600
4) สินค้า 15,444
เจ้าหนี้ 15,444
ตอบ 2) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 7. รายการวันที่ 8 บันทึกบัญชีโดย
1) สินค้า 400
เจ้าหนี้ 400
2) เจ้าหนี้ 400
สินค้า 400
3) สินค้า 400
เงินสด 400
4) เงินสด 400
สินค้า 400
ตอบ 3) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 8. รายการวันที่ 10 บันทึกบัญชีโดย
1) เจ้าหนี้ 1,300
ส่งคืน 1,300
2) เจ้าหนี้ 1,300
สินค้า 1,300
3) ส่งคืน 1,300
เจ้าหนี้ 1,300
4) ส่งคืน 1,300
สินค้า 1,300
ตอบ 2) ในตัวเลือกให้ความหมายชัดเจนแล้ว
ข้อ 9-10. รายการวันที่ 12 บันทึกบัญชีโดย
1) เจ้าหนี้ 30,000
เงินสด 30,000
2) เจ้าหนี้ 29,400
เงินสด 29,400
3) เจ้าหนี้ 30,000
ส่วนลดรับ 30,000
เงินสด 29,400
4) เจ้าหนี้ 28,700
สินค้า 574
เงินสด 28,126
ตอบ 4)
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น)
แนวข้อสอบ
จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถาม
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลของสมาคมบัณฑิตไทย :
เงินสดรับ สำหรับปี 2543 :
ค่าบำรุงสมาชิก 155,000 บาท
จากการจัดสัมมนา 58,000
จากการจำหน่ายวารสาร 43,000
ดอกเบี้ยรับ 29,000
เบิกเงินจากธนาคาร 35,000
ค่าใช้จ่ายที่ปรากฎในงบรายได้และค่าใช้จ่าย สำหรับปี 2543 :
เงินเดือน 53,000 บาท
ค่าเช่า 19,000
ค่าน้ำค่าไฟ 9,000
ค่าโฆษณา 17,000
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 8,000
ค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนา 40,000
ค่าจัดพิมพ์วารสาร 33,000
ค่าเสื่อมราคา 24,000
ทรัพย์สินและหนี้สิน ณ วันปลายปี 2543 :
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 453,000 บาท
ทรัพย์สินถาวร (สุทธิ) 114,000
ค่าบำรุงสมาชิกรับล่วงหน้า 12,000
ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า 8,000
เงินเดือนค้างจ่าย 13,000
รายได้เบ็ดเตล็ดค้างรับ 4,000
ข้อมูลเพิ่มเติม
ณ วันต้นปี 2543 มีค่าบำรุงสมาชิกค้างรับ 9,000 บาท ดอกเบี้ยค้างรับ 3,000 บาท ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้า 5,000 บาท ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดค้างจ่าย 2,000 บาท
1. รายได้บำรุงสมาชิกสำหรับปี 2543 เท่ากับเท่าใด
ก. 176,000 บาท ข. 158,000 บาท
ค. 152,000 บาท ง. 134,000 บาท
ตอบ ง. 134,000 บาท
คำนวณหารายได้ค่าบำรุงสมาชิกสำหรับปี 2543
เงินสดรับจากค่าบำรุงสมาชิก 155,000
หัก ค่าบำรุงสมาชิกรับล่วงหน้าปลายปี 12,000
ค่าบำรุงสมาชิกค้างรับต้นปี 9,000 21,000
รายได้ค่าบำรุงสมาชิก 134,000
2. รายได้สำหรับปี 2543 มีจำนวนรวมทั้งสิ้นเท่ากับเท่าใด
ก. 309,000 บาท ข. 289,000 บาท
ค. 285,000 บาท ง. 265,000 บาท
ตอบ ง. 265,000 บาท
คำนวณหาดอกเบี้ยรับสำหรับปี 2543
เงินสดรับจากดอกเบี้ยรับ 29,000
หัก ดอกเบี้ยค้างรับต้นปี 3,000
ดอกเบี้ยรับ 26,000
ยอดรวมรายได้สำหรับปี 2543
ค่าบำรุงสมาชิก 134,000
การจัดสัมมนา 58,000
จำหน่ายวารสาร 43,000
ดอกเบี้ยรับ 26,000
รายได้เบ็ดเตล็ด 4,000
ยอดรวม 265,000
3. ในปี 2543 รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายเท่ากับเท่าใด
ก. 106,000 บาท ข. 62,000 บาท
ค. 82,000 บาท ง. 86,000 บาท
ตอบ ข. 62,000 บาท
สมาคมบัณฑิตไทย
งบรายได้และค่าใช้จ่าย
สำหรับปี สิ้นสุดที่ 31 ธันวาคม 2543
รายได้ : ค่าบำรุงสมาชิก 134,000
การจัดสัมมนา 58,000
จำหน่ายวารสาร 43,000
ดอกเบี้ย 26,000
รายได้เบ็ดเตล็ด 4,000 265,000
ค่าใช้จ่าย :
เงินเดือน 53,000
ค่าเช่า 19,000
ค่าน้ำค่าไฟ 9,000
ค่าโฆษณา 17,000
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 8,000
ค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนา 40,000
ค่าจัดพิมพ์วารสาร 33,000
ค่าเสื่อมราคา 24,000 203,000
รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 62,000
4. ในปี 2543 เงินสดจ่ายสำหรับเงินเดือนและค่าเช่ามีจำนวนเท่ากับเท่าใด
ก. 51,000 บาท ข. 93,000 บาท
ค. 77,000 บาท ง. 67,000 บาท
ตอบ ง. 67,000 บาท
คำนวณเงินสดจ่ายเงินเดือนและค่าเช่าในปี 2543
เงินเดือน 53,000
ค่าเช่า 19,000
72,000
บวก ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้าปลายปี 8,000
80,000
หัก เงินเดือนค้างจ่ายปลายปี 13,000
เงินสดข่ายเงินเดือนและค่าเช่า 67,000
5. ในปี 2543 เงินสดจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายมีจำนวนรวมทั้งสิ้นเท่ากับเท่าใด
ก. 171,000 บาท ข. 187,000 บาท
ค. 174,000 บาท ง. 195,000 บาท
ตอบ ก. 171,000 บาท
คำนวณเงินสดจ่ายค่าโฆษณาในปี 2543
ค่าโฆษณา 17,000
หัก ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้าต้นปี 5,000
เงินสดจ่ายค่าโฆษณา 12,000
คำนวณเงินสดจ่ายค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดในปี 2543
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 8,000
บวก ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดค้างจ่ายต้นปี 2,000
เงินสดจ่ายค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 10,000
เงินสดจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นในปี 2543
เงินเดือนและค่าเช่า 67,000
ค่าน้ำค่าไฟ 9,000
ค่าโฆษณา 12,000
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 10,000
ค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนา 40,000
ค่าจัดพิมพ์วารสาร 33,000
ยอดรวม 171,000
6. เงินสดและเงินฝากธนาคารคงเหลือ ณ วันต้นปี 2543 มีจำนวนเท่ากับเท่าใด
ก. 363,000 บาท ข. 339,000 บาท
ค. 567,000 บาท ง. 304,000 บาท
ตอบ ข. 339,000 บาท
คำนวณเงินสดและเงินฝากธนาคารคงเหลือ ณ วันต้นปี 2543
เงินสดและเงินฝากธนาคาร ณ วันปลายปี 453,000
บวก เงินสดจ่าย 171,000
624,000
หัก เงินสดรับ (155,000 + 58,000 + 43,000 + 29,000) 285,000
เงินสดและเงินฝากธนาคาร ณ วันต้นปี 339,000
7. ทุนสะสม ณ วันต้นปี 2543 มีจำนวนเท่ากับเท่าใด
ก. 646,000 บาท ข. 642,000 บาท
ค. 522,000 บาท ง. 526,000 บาท
ตอบ ค. 522,000 บาท
คำนวณหายอดทุนสะสม ณ วันปลายปี 2543
ทรัพย์สิน ณ วันปลายปี :
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 453,000
ทรัพย์สินถาวรสุทธิ 144,000
ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า 8,000
รายได้เบ็ดเตล็ดค้างรับ 4,000 609,000
หัก หนี้สิน ณ วันปลายปี :
ค่าบำรุงสมาชิกรับล่วงหน้า 12,000
เงินเดือนค้างจ่าย 13,000
25,000
ทุนสะสม ณ วันปลายปี 584,000
คำนวณหาทุนสะสม ณ วันต้นปี 2543
ทุนสะสม ณ วันปลายปี 584,000
หัก รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 62,000
ทุนสะสม ณ วันต้นปี 522,000
8. ข้อความในข้อใดเป็นข้อความที่ถูกต้องสำหรับระบบบัญชีเดี่ยว
ก. การเปลี่ยนระบบจากบัญชีเดี่ยวเป็นบัญชีคู่จะเปลี่ยนเมื่อใดก็ได้ เพียงแต่ในวันที่เปลี่ยนให้ทำงบเปรียบเทียบทุนขึ้นมาก่อน
ข. กิจการที่มีรายการค้าจำนวนมากควรใช้ระบบบัญชีเดี่ยว ซึ่งเป็นระบบที่ง่ายกว่าและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าระบบบัญชีคู่
ค. งบดุลมักถูกเรียกว่างบแสดงฐานะ ส่วนงบกำไรขาดทุนมักถูกเรียกว่างบเปรียบเทียบทุน
ง. ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายจะหามาได้โดยการสอบถามเจ้าของ ตรวจดูใบเสร็จรับเงินและบัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้
ตอบ ค. งบดุลมักถูกเรียกว่างบแสดงฐานะ ส่วนงบกำไรขาดทุนมักถูกเรียกว่างบเปรียบเทียบทุน
งบดุลในระบบบัญชีเดี่ยวมักถูกเรียกว่างบแสดงฐานะ ซึ่งจะแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน โดยได้มาจากการสอบถามเจ้าของกิจการ ดูเอกสารหลักฐานการจ่ายเงิน - รับเงิน และข้อเท็จจริงต่างๆ สำหรับยอดทุนเกิดจากการนำยอดทรัพย์สินหักด้วยยอดหนี้สิน งบกำไรขาดทุน มักถูกเรียกว่า งบเปรียบเทียบทุน ซึ่งจะนำเอายอดทุนต้นปีกับทุนปลายปีมาเปรียบเทียบกัน ถ้าทุนปลายปีเพิ่มขึ้นแสดงว่าเกิดผลกำไรสุทธิ แต่ถ้าทุนปลายปีลดลงแสดงว่าเกิดผลขาดสุทธิ
จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการตอบคำถามข้อ 9. - 10.
การบันทึกรายการในสมุดเงินสดย่อย ประกอบด้วยช่องค่าพาหนะ ค่าไปรษณีย์ ช่องอื่น
2544 ม.ค. |
1 |
ผู้รักษาเงินสดย่อยรับเงินสด 5,000 บาท |
|
5-18 |
จ่ายค่าพาหนะ 1,000 บาท ค่าไปรษณีย์ 500 บาท ค่ารับรองลูกค้า 2,000 บาท ค่าเครื่องเขียน 1,000 บาท |
|
20 |
เบิกเงินชดเชยเงินสดย่อย |
|
25-31 |
จ่ายค่ารับรอง 2,000 บาท ค่าพาหนะ 1,000 บาท |
9. วันที่ 1 มกราคม 2544 ผู้จ่ายเงินสดย่อยบันทึกรายการใด
ก. ทะเบียนใบสำคัญจ่าย ข. สมุดเงินสดย่อย
ค. ทะเบียนจ่ายเช็ค ง. ข้อ ก. และ ค.
ตอบ ข. สมุดเงินสดย่อย
การควบคุมภายในเกี่ยวกับเงินสดย่อย กำหนดให้ผู้รักษาเงินสดย่อยมีหน้าที่เก็บรักษาเงินสดและบันทึกรายการรับจ่ายเงินสดลงในสมุดเงินสดย่อยเท่านั้น แต่ไม่มีหน้าที่บันทึกรายการบัญชีเกี่ยวกับเงินสดย่อย ดังนั้นสมุดเงินสดย่อยจึงเป็นเพียงสมุดช่วยจำของผู้รักษาเงินสดย่อยเท่านั้น มิได้เป็นสมุดบัญชีแต่อย่างใด
10. วันที่ 31 มกราคม 2544 ยอดรวมในสมุดเงินสดย่อย
ก. เงินสดย่อยรวม 7,500 บาท ข. ช่องบัญชีอื่นรวม 5,000 บาท
ค. เงินสดรับรวม 9,500 บาท ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบการเงินและบัญชี
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. บริษัท กขค จำกัด มีสินทรัพย์ 28,000 บาท มีหนี้สิน 10,000 บาท และมีทุนเรือนหุ้น 7,000 บาท ยอดคงเหลือ
ในบัญชีกำไรสะสมเท่ากับ.........บาท ?
ก. 31,000 ข. 17,000
ค. 25,000 ง. 11,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
28,000 = 10,000 + ส่วนของเจ้าของ
\ ส่วนของเจ้าของ = 28,000 - 10,000 บาท
= 18,000 บาท
ส่วนของเจ้าของ = ทุนเรือนหุ้น + กำไรสะสม
18,000 = 7,000 + 11,000
2. ระหว่างปีที่ผ่านมาบริษัทบุญมา จำกัด มีรายการสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 2,000 บาท รายการหนี้สินลดลง 1,000 บาท รายการทุนเรือนหุ้นเพิ่มขึ้น 2,000 บาท และมีกำไรสุทธิประจำปี 3,000 บาท กิจการจ่ายเงินปันผล เท่ากับ........บาท ?
ก. 1,000 ข. 2,000
ค. 3,000 ง. 4,000
ตอบข้อ ข. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
\ ส่วนของเจ้าของ = หนี้สินลด (Dr.) + ทุนเรือนหุ้นเพิ่ม (Cr.)
+ กำไรสุทธิ (Cr.) – จ่ายเงินปันผล (Dr.)
จ่ายเงินปันผล = ทุนเรือนหุ้นเพิ่ม (Cr.) + กำไรสุทธิ (Cr.)
- หนี้สินลดลง (Dr.) – สินทรัพย์เพิ่ม (Dr.)
= 2,000 + 3,000 – 1,000 – 2,000 บาท
= 2,000 บาท
3. บริษัทสหภัณฑ์ จำกัด มีหนี้สิน 40,000 บาท กำไรสะสม 20,000 บาท และเงินทุนจดทะเบียน 15,000 บาท
กิจการนี้มีสินทรัพย์เป็นจำนวน ............. บาท
ก. 35,000 ข. 45,000
ค. 55,000 ง. 75,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
= 40,000 + (15,000 + 20,000)
= 75,000 บาท
4. บริษัท มานาน จำกัด บันทึกรายได้จากการขายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่บริษัทจะไม่รับการจ่ายชำระเงิน จนกว่าจะถึงปีหน้า การปฏิบัติเช่นนี้เป็นตัวอย่างของ
ก. Clash Basis Accounting ข. Accrual Accounting
ค. Historical Costing ง. Improper Recognition
ตอบข้อ ข. ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ
5. บริษัท การเวก จำกัด ซื้อที่ดินเมื่อ 2 ปีที่แล้วในราคา 100,000 บาท เมื่อเร็วๆ นี้กิจการได้รับข้อเสนอขาย
ที่ดินแปลงนี้ในราคา 125,000 บาท และขณะนี้ที่ดินมีราคาประเมินเป็นเงิน 140,000 บาท มูลค่าประเมิน
เพื่อเสียภาษีทรัพย์สินเท่ากับ 85,000 บาท บริษัทควรจะแสดงมูลค่าของที่ดินในงบการเงินเป็นจำนวน
เท่าไร
ก. 100,000 ข. 125,000
ค. 140,000 ง. 85,000
ตอบข้อ ก. การบันทึกรายการสินทรัพย์และหนี้สินถือเกณฑ์ราคาต้นทุน ซึ่งหมายถึงราคาที่เกิดขึ้น
จากการซื้อขายที่คำนวณได้อย่างมีหลักเกณฑ์ โดยไม่ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของคนใดคนหนึ่ง
มีหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชีเป็นหลักฐานที่เชื่อถือและเป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่ายเป็นการปฏิบัติโดยถือหลักราคาทุน (Cost Concept) ซึ่งมีความสัมพันธ์หลัก
ความดำรงอยู่ของกิจการ (Going Concept) และหลักการใช้หลักการอันเที่ยงธรรม
(Materiality)
6. การคิดต้นทุนของสินทรัพย์ตามงวดบัญชีได้รับประโยชน์จากการใช้สินทรัพย์นั้นเป็นตัวอย่างของหลักการ
ก. Conservatism ข. Matching
ค. Materiality ง. Allocation
ตอบข้อ ข. หลักการจับคู่ค่าใช้จ่ายกับรายได้ (Matching) จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการหาผลการดำเนินงานของกิจการ โดยการบันทึกรายได้ตามหลักการเกิดขึ้นของรายได้ (Revenue Recognition) และหลักเงินค้าง (The Accrual Basis) ของงวดบัญชีนั้น แล้วจึงนำค่าใช้จ่ายที่ทำให้เกิดรายได้หรือผลประโยชน์ขึ้นมาจับคู่ และถือเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีนั้นๆ ด้วย
7. บริษัท ไทยรุ่งเรือง จำกัด มีส่วนของเจ้าของจำนวน 42,000 บาท ณ วันต้นงวด และจำนวน 46,000 บาท
ณ วันปลายงวด ผู้ถือหุ้นลงทุน 5,000 บาท ในระหว่างงวด และมีการประกาศและจ่ายเงินปันผล 2,000 บาท
กำไรสุทธิประจำปีเท่ากับ
ก. 4,000 ข. 2,000
ค. 3,000 ง. 1,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
ส่วนของเจ้าของ ณ วันปลายงวด 4,600 บาท
บวก จ่ายเงินปันผล 2,000 บาท
48,000 บาท
หัก ส่วนของเจ้าของ ณ วันต้นงวด 42,000
ลงทุนเพิ่ม 5,000 47,000 บาท
\ กำไรสุทธิประจำปี 1,000 บาท
8. รายการทางบัญชีรายการใดมีความสำคัญหรือไม่มีความสำคัญต่อการรายงานในงบการเงินเกี่ยวข้องกับ
หลักการ
ก. Conservatism ข. Materiality
ค. Comprehensiveness ง. Periodicity
ตอบข้อ ข. หลักการมีนัยสำคัญ (Materiality) คือ งบการเงินควรเปิดเผยข้อมูลที่มีนัยสำคัญซึ่งมีผลต่อ
การตัดสินใจของผู้ใช้ ทั้งนี้เพื่อผู้ใช้จะได้เข้าใจโดยถูกต้องถึงผลการดำเนินงานฐานะการเงิน
และการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญ หมายถึง เหตุการณ์
ซึ่งถ้าหากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีโอกาสรับทราบแล้ว อาจตัดสินใจผิดไปจากกรณีที่รับทราบ
9. การคิดต้นทุนที่เกิดขึ้นเพื่อก่อให้เกิดรายได้สำหรับงวดบัญชีเดียวกันที่มีรายงานได้เป็นตัวอย่างของหลักการ
ก. Conservatism ข. Matching
ค. Materiality ง. Stewardship
ตอบข้อ ข. ดูคำอธิบายข้อ 6 ประกอบ
10. การไหลข้าวของทรัพยากร เนื่องจากความพยายามที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ เรียกว่า
ก. Asset ข. Liability
ค. Revenue ง. Expense
ตอบข้อ ค. Revenue